๒๐.โคนคู่โค่นพสุธา

เซียนหมากระดับเทพที่มุ่งหมายตำแหน่ง ‘ยอดเซียน’ ทั้งหมดถูกจัดแบ่งเป็น ๔ สาย โดยมี ‘จตุรเทพ’ เป็นด่านสุดท้ายของแต่ละสาย นั่นเป็นสิทธิพิเศษของจตุรเทพที่ไม่ต้องเปลืองกำลังในการฝ่าด่าน

จอมถูกจัดให้อยู่ในสายของเทพประจิม  จอมเคยเห็นพลังยะเยือกของเทพประจิมมาแล้ว  รู้ว่าขอเพียงไม่ประมาทเขาอาจผ่านเทพประจิมไปได้

มีเรื่องเดียวที่เขากังวลก็คือดอกบัว

ดอกบัวจะมาชมการประลองหรือไม่?  เจ้าสำนักอัคคีเมื่อพยายามไม่ให้เขาเข้าร่วมการประลองแสดงว่านอกจากอสูรเหล็กไฟสำนักอัคคียังมีมือดีที่จะเข้าชิง  เจ้าสำนักอัคคีอยู่ที่นี่ ดอกบัวย่อมสมควรอยู่แถว ๆ นี้  จอมกวาดตามองไปโดยรอบ ไร้วี่แววนาง

เสียงเจ้าหน้าที่ทำเนียบเซียนดังขึ้น

“การประลองขั้นปฐมระหว่าง..หมากดำ..เซียนหมากระดับเทพ ผู้เป็นอันดับหนึ่งของภาคตะวันออก ผู้ไม่เคยพ่ายแก่เซียนหมากใดตลอดหนึ่งปีที่ผ่าน..โคนคู่..โค่น..พ สุ ธ า!”

เสียงโห่ร้องปรบมือให้กำลังใจดังกึกก้อง
โคนคู่โค่นพสุธาก้าวออกจากฝูงชน มาหยุดยืนข้าง ๆ โต๊ะประลอง
เขาสวมเสื้อผ้าสีสันสดใส เครื่องประดับราคาแพง ยิ้มโบกมือให้บรรดาผู้ชม

เสียงเจ้าหน้าที่ทำเนียบเซียนดังขึ้นอีกครั้ง

“หมากขาว..เซียนหมากผู้พลิกประวัติศาตร์ทำเนียบเซียน เข้าสู่ระดับเทพด้วยวัยน้อยที่สุดและรวดเร็วที่สุดในรอบ ๑๐๐ ปี..เมฆา..ล่ อ ง  ล อ ย!”

ผู้คนที่พากันมาให้กำลังใจจอมแม้มีจำนวนน้อยกว่า แต่พวกเขาสามารถส่งเสียงดังลั่นข่มเสียงของฝ่ายแรก

จอมขยับเข้าประจำที่ สีหน้าสงบนิ่ง ใบหน้าเกลี้ยงเกลา คมคาย  จอมยามนี้ดูเหมือนบุรุษหนุ่มที่บรรลุนิติภาวะ พร้อมเผชิญโชคชะตา แทบเป็นคนละคนกับเด็กน้อยร่อนเร่พเนจร ขาดความมั่นใจ ไม่ประสากับชีวิต เมื่อหลายเดือนก่อน

ทั้งคู่ทำความเคารพกันและกันแล้วนั่งลง
เจ้าหน้าที่อ่านกติกาให้ฟังพอเป็นพิธี..ทั้งสองเสี่ยงทายหาผู้เริ่มเดินหมาก
จอมได้เดินก่อน เจ้าหน้าที่อวยพรทั้งคู่

การประลองเริ่มขึ้น

เสียงโห่ร้อง เสียงวิพากษ์วิจารณ์เงียบลง
บรรยากาศกลับสงบนิ่ง  สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังกระดานหมาก

จอมเปิดหมากด้วย ‘อาชาโจนทะยาน’ เป็นหมากที่พร้อมใช้ม้าบุกทะลวง
โคนคู่ส่งเสียงจิต “เด็กน้อยเจ้าไม่เห็นข้าอยู่ในสายตาแล้ว!” จากนั้นเปิดหมากด้วย ‘โคนคู่ปราบไตรจักร’

เหล่าผู้ชมเห็นการเปิดหมากเช่นนี้อดยินดีไม่ได้ ทั้งคู่เปิดหมากบุกเข้าหากัน  คงได้ชมการห้ำหั่นที่สาสมใจแน่

เป็นเช่นนั้นจริง ๆ จอมนำขุมกำลังติดตามม้า ใช้ม้าคู่ทะลวงเข้าไป  อีกฝ่ายหาได้ตั้งรับ กลับยกกำลังเข้าปะทะ  สองฝ่ายยันกันที่กลางกระดาน หมากหน้าของทั้งคู่ไม่สามารถขยับเขยื่อน  ต่างใช้กองกำลังหนุนเข้าผูกหมากของตนอย่างแน่นหนา

“ดี! เจ้าอยากจบกระดานไว ๆ ข้าจะสนองเจ้า!” เสียงจิตของโคนคู่กังวาน

จอมนั่งนิ่งไม่โต้ตอบ  นับแต่ท่านสูญญตาจารย์ทะลวงขีดจำกัดให้  จอมสามารถเปล่งเสียงจิตได้ตามใจปราถนา แต่ปล่อยคนผู้นี้..เห็นเราเป็นเด็กน้อยไปเช่นนี้ดีกว่า..

จอมยังดันหมากทุกตัวขึ้นเสริมแนวหน้ารวมทั้งขุน
โคนคู่โค่นพสุธา ผู้ใช้หมากโคนคู่เปล่งพลังการผสานทำลาย  จนหาไร้ผู้ต้านทานทั้งภาคตะวันออกขยับโคนคู่ของตนขึ้นมาในแนวขุนของจอม

หมากของทั้งคู่เหมือนลูกโป่งที่ถูกอัดลมจนพองโต  ขอเพียงมีเข็มเล็ก ๆ สะกิดแผ่วเบาก็จะระเบิด! เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

จอมบรรจงวางหมากทุกตัวไว้ในตำแหน่ง  คำนวณการแลกหมากล่วงหน้าจนหมดกระดานแล้วนั่งกอดอกเอนหลังพิงพนักเก้าอี้  ปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของฝ่ายตรงข้ามว่าจะเลือกยืดเยื้อหรือหักล้าง

“ดี! เรามาดูกันว่าเจ้ากับข้า ใครจะแม่นยำกว่ากัน!” เสียงจิตของโคนคู่ดังก้อง

จากนั้นทั้งคู่แลกหมากกันพัลวัน!
มือที่จับหมากกินฝ่ายตรงข้ามชักเข้า-ออกอย่างรวดเร็วจนไม่อาจจับตา  ผู้ชมพากันส่งเสียงร้อง “ฮู้!” การแลกหมากยังไม่สิ้นสุด! หมากที่เข้าประจันหน้ากันเช่นนั้น ไม่ต่างกับสองกองทัพยกกำลังพลเข้าปะทะฆ่าฟันล้มตายหมายเข่นฆ่าฝ่ายตรงข้ามให้มากที่สุด  ผู้เหลือรอดเท่านั้นจะเป็นผู้ได้ชัย

การแลกหมากดำเนินไปจนหมากที่วางเต็มกระดานเมื่อครู่หายไปเกือบหมด

หมากดำเหลือขุนกับโคนหนึ่งตัว
หมากขาวเหลือขุนกับม้าหนึ่งตัวและเบี้ยอีกสองตัว!

เบี้ยไร้ค่าสองตัวกลับเป็นตัวตัดสินเป็น-ตาย

โคนคู่มองหมากที่เหลือแล้วบังเกิดความท้อแท้ ครุ่นคิด...นี่เป็นกลหมากคลื่นกระทบฝั่ง เราคาดหมายจะเหลือโคนคู่ไว้ กลับไม่เป็นดังดิด  เด็กน้อยนี่ไม่ธรรมดา อย่า ‘หนี’ ให้เป็นที่ละอายเลย โคนคู่จึงกล่าว “เรายอมแพ้!”*

จอมยกมือไหว้ส่งเสียงจิต “ขอบคุณท่าน” โคนคู่ผงะแล้วยิ้ม  เขารับไหว้ลุกขึ้นอวยพร

ผู้ชมปรบมือดังสนั่น  จอมลุกขึ้นไหว้บรรดาเซียนหมากทั้งสี่ทิศ สายตามองไปโดยรอบ กลับไม่พบเห็นผู้ที่ปราถนาจะพบเจอ

หลังการประลอง  จอมก้าวเท้าแทบไม่ไหว เทพยุทธ์นิรนามเข้ามาช่วยประคอง  ผู้คนพากันออกมาส่งถึงหน้าทำเนียบเซียนและบอกว่าพวกเขาจะคอยให้กำลังใจจอมจนถึงวันชิงยอดเซียน จอมกล่าวขอบคุณบรรดาเซียนหมากแล้วลากลับ

จอมปีติยินดีได้คืนกระท่อมเทพยุทธ์นิรนามอีกครั้ง  เมย์จัดห้องให้พักผ่อน ต้มน้ำโสมให้ดื่ม  ค่ำคืนจอมหลับด้วยความเหนื่อยล้า  ล่วงเช้าวันใหม่จึงตื่นขึ้นด้วยความกระปรี้กระเปล่าเปี่ยมพลังดุจเดิม

 

ก า ร ไ ด้ เ ดิ น ห ม า ก กั บ ผู้ มี ฝี มื อ ทั ด เ ที ย ม
เ ป็ น ค ว า ม สุ ข ช นิ ด ห นึ่ ง ข อ ง เ ซี ย น ห ม า ก
                                                          เทพอุดร

*หมายเหตุ : กรณีมีหมากน้อยกว่าเหลือหนทางเพียงพ่ายกับเสมอ  เซียนหมากจะตระหนักว่าตัวหมากเสียเปรียบที่เหลือนั้นเพียงพอจะหนีจนเสมอได้หรือไม่? ทั้งยังต้องประเมินฝีมือคู่ต่อสู้ว่าคุ้มที่จะหนีหรือไม่  การหนีตอนท้ายกระดานถือเป็นอับยศประการหนึ่ง  หากหนีแล้วยังพ่ายนั่นเป็นความอับอายยากกล้ำกลืนมิสู้ยอมพ่ายเสียแต่เนิ่น