เซียนหมากระดับเทพที่มุ่งหมายตำแหน่ง ‘ยอดเซียน’ ทั้งหมดถูกจัดแบ่งเป็น ๔ สาย โดยมี ‘จตุรเทพ’ เป็นด่านสุดท้ายของแต่ละสาย นั่นเป็นสิทธิพิเศษของจตุรเทพที่ไม่ต้องเปลืองกำลังในการฝ่าด่าน
จอมถูกจัดให้อยู่ในสายของเทพประจิม จอมเคยเห็นพลังยะเยือกของเทพประจิมมาแล้ว รู้ว่าขอเพียงไม่ประมาทเขาอาจผ่านเทพประจิมไปได้
มีเรื่องเดียวที่เขากังวลก็คือดอกบัว
ดอกบัวจะมาชมการประลองหรือไม่? เจ้าสำนักอัคคีเมื่อพยายามไม่ให้เขาเข้าร่วมการประลองแสดงว่านอกจากอสูรเหล็กไฟสำนักอัคคียังมีมือดีที่จะเข้าชิง เจ้าสำนักอัคคีอยู่ที่นี่ ดอกบัวย่อมสมควรอยู่แถว ๆ นี้ จอมกวาดตามองไปโดยรอบ ไร้วี่แววนาง
เสียงเจ้าหน้าที่ทำเนียบเซียนดังขึ้น
“การประลองขั้นปฐมระหว่าง..หมากดำ..เซียนหมากระดับเทพ ผู้เป็นอันดับหนึ่งของภาคตะวันออก ผู้ไม่เคยพ่ายแก่เซียนหมากใดตลอดหนึ่งปีที่ผ่าน..โคนคู่..โค่น..พ สุ ธ า!”
เสียงโห่ร้องปรบมือให้กำลังใจดังกึกก้อง
โคนคู่โค่นพสุธาก้าวออกจากฝูงชน มาหยุดยืนข้าง ๆ โต๊ะประลอง
เขาสวมเสื้อผ้าสีสันสดใส เครื่องประดับราคาแพง ยิ้มโบกมือให้บรรดาผู้ชม
เสียงเจ้าหน้าที่ทำเนียบเซียนดังขึ้นอีกครั้ง
“หมากขาว..เซียนหมากผู้พลิกประวัติศาตร์ทำเนียบเซียน เข้าสู่ระดับเทพด้วยวัยน้อยที่สุดและรวดเร็วที่สุดในรอบ ๑๐๐ ปี..เมฆา..ล่ อ ง ล อ ย!”
ผู้คนที่พากันมาให้กำลังใจจอมแม้มีจำนวนน้อยกว่า แต่พวกเขาสามารถส่งเสียงดังลั่นข่มเสียงของฝ่ายแรก
จอมขยับเข้าประจำที่ สีหน้าสงบนิ่ง ใบหน้าเกลี้ยงเกลา คมคาย จอมยามนี้ดูเหมือนบุรุษหนุ่มที่บรรลุนิติภาวะ พร้อมเผชิญโชคชะตา แทบเป็นคนละคนกับเด็กน้อยร่อนเร่พเนจร ขาดความมั่นใจ ไม่ประสากับชีวิต เมื่อหลายเดือนก่อน
ทั้งคู่ทำความเคารพกันและกันแล้วนั่งลง
เจ้าหน้าที่อ่านกติกาให้ฟังพอเป็นพิธี..ทั้งสองเสี่ยงทายหาผู้เริ่มเดินหมาก
จอมได้เดินก่อน เจ้าหน้าที่อวยพรทั้งคู่
การประลองเริ่มขึ้น
เสียงโห่ร้อง เสียงวิพากษ์วิจารณ์เงียบลง
บรรยากาศกลับสงบนิ่ง สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังกระดานหมาก
จอมเปิดหมากด้วย ‘อาชาโจนทะยาน’ เป็นหมากที่พร้อมใช้ม้าบุกทะลวง
โคนคู่ส่งเสียงจิต “เด็กน้อยเจ้าไม่เห็นข้าอยู่ในสายตาแล้ว!” จากนั้นเปิดหมากด้วย ‘โคนคู่ปราบไตรจักร’
เหล่าผู้ชมเห็นการเปิดหมากเช่นนี้อดยินดีไม่ได้ ทั้งคู่เปิดหมากบุกเข้าหากัน คงได้ชมการห้ำหั่นที่สาสมใจแน่
เป็นเช่นนั้นจริง ๆ จอมนำขุมกำลังติดตามม้า ใช้ม้าคู่ทะลวงเข้าไป อีกฝ่ายหาได้ตั้งรับ กลับยกกำลังเข้าปะทะ สองฝ่ายยันกันที่กลางกระดาน หมากหน้าของทั้งคู่ไม่สามารถขยับเขยื่อน ต่างใช้กองกำลังหนุนเข้าผูกหมากของตนอย่างแน่นหนา
“ดี! เจ้าอยากจบกระดานไว ๆ ข้าจะสนองเจ้า!” เสียงจิตของโคนคู่กังวาน
จอมนั่งนิ่งไม่โต้ตอบ นับแต่ท่านสูญญตาจารย์ทะลวงขีดจำกัดให้ จอมสามารถเปล่งเสียงจิตได้ตามใจปราถนา แต่ปล่อยคนผู้นี้..เห็นเราเป็นเด็กน้อยไปเช่นนี้ดีกว่า..
จอมยังดันหมากทุกตัวขึ้นเสริมแนวหน้ารวมทั้งขุน
โคนคู่โค่นพสุธา ผู้ใช้หมากโคนคู่เปล่งพลังการผสานทำลาย จนหาไร้ผู้ต้านทานทั้งภาคตะวันออกขยับโคนคู่ของตนขึ้นมาในแนวขุนของจอม
หมากของทั้งคู่เหมือนลูกโป่งที่ถูกอัดลมจนพองโต ขอเพียงมีเข็มเล็ก ๆ สะกิดแผ่วเบาก็จะระเบิด! เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
จอมบรรจงวางหมากทุกตัวไว้ในตำแหน่ง คำนวณการแลกหมากล่วงหน้าจนหมดกระดานแล้วนั่งกอดอกเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของฝ่ายตรงข้ามว่าจะเลือกยืดเยื้อหรือหักล้าง
“ดี! เรามาดูกันว่าเจ้ากับข้า ใครจะแม่นยำกว่ากัน!” เสียงจิตของโคนคู่ดังก้อง
จากนั้นทั้งคู่แลกหมากกันพัลวัน!
มือที่จับหมากกินฝ่ายตรงข้ามชักเข้า-ออกอย่างรวดเร็วจนไม่อาจจับตา ผู้ชมพากันส่งเสียงร้อง “ฮู้!” การแลกหมากยังไม่สิ้นสุด! หมากที่เข้าประจันหน้ากันเช่นนั้น ไม่ต่างกับสองกองทัพยกกำลังพลเข้าปะทะฆ่าฟันล้มตายหมายเข่นฆ่าฝ่ายตรงข้ามให้มากที่สุด ผู้เหลือรอดเท่านั้นจะเป็นผู้ได้ชัย
การแลกหมากดำเนินไปจนหมากที่วางเต็มกระดานเมื่อครู่หายไปเกือบหมด
หมากดำเหลือขุนกับโคนหนึ่งตัว
หมากขาวเหลือขุนกับม้าหนึ่งตัวและเบี้ยอีกสองตัว!
เบี้ยไร้ค่าสองตัวกลับเป็นตัวตัดสินเป็น-ตาย
โคนคู่มองหมากที่เหลือแล้วบังเกิดความท้อแท้ ครุ่นคิด...นี่เป็นกลหมากคลื่นกระทบฝั่ง เราคาดหมายจะเหลือโคนคู่ไว้ กลับไม่เป็นดังดิด เด็กน้อยนี่ไม่ธรรมดา อย่า ‘หนี’ ให้เป็นที่ละอายเลย โคนคู่จึงกล่าว “เรายอมแพ้!”*
จอมยกมือไหว้ส่งเสียงจิต “ขอบคุณท่าน” โคนคู่ผงะแล้วยิ้ม เขารับไหว้ลุกขึ้นอวยพร
ผู้ชมปรบมือดังสนั่น จอมลุกขึ้นไหว้บรรดาเซียนหมากทั้งสี่ทิศ สายตามองไปโดยรอบ กลับไม่พบเห็นผู้ที่ปราถนาจะพบเจอ
หลังการประลอง จอมก้าวเท้าแทบไม่ไหว เทพยุทธ์นิรนามเข้ามาช่วยประคอง ผู้คนพากันออกมาส่งถึงหน้าทำเนียบเซียนและบอกว่าพวกเขาจะคอยให้กำลังใจจอมจนถึงวันชิงยอดเซียน จอมกล่าวขอบคุณบรรดาเซียนหมากแล้วลากลับ
จอมปีติยินดีได้คืนกระท่อมเทพยุทธ์นิรนามอีกครั้ง เมย์จัดห้องให้พักผ่อน ต้มน้ำโสมให้ดื่ม ค่ำคืนจอมหลับด้วยความเหนื่อยล้า ล่วงเช้าวันใหม่จึงตื่นขึ้นด้วยความกระปรี้กระเปล่าเปี่ยมพลังดุจเดิม
ก า ร ไ ด้ เ ดิ น ห ม า ก กั บ ผู้ มี ฝี มื อ ทั ด เ ที ย ม
เ ป็ น ค ว า ม สุ ข ช นิ ด ห นึ่ ง ข อ ง เ ซี ย น ห ม า ก
เทพอุดร
*หมายเหตุ : กรณีมีหมากน้อยกว่าเหลือหนทางเพียงพ่ายกับเสมอ เซียนหมากจะตระหนักว่าตัวหมากเสียเปรียบที่เหลือนั้นเพียงพอจะหนีจนเสมอได้หรือไม่? ทั้งยังต้องประเมินฝีมือคู่ต่อสู้ว่าคุ้มที่จะหนีหรือไม่ การหนีตอนท้ายกระดานถือเป็นอับยศประการหนึ่ง หากหนีแล้วยังพ่ายนั่นเป็นความอับอายยากกล้ำกลืนมิสู้ยอมพ่ายเสียแต่เนิ่น